[postlink]https://aodnoommovieclub.blogspot.com/2010/08/edge-of-empire.html[/postlink]http://www.youtube.com/watch?v=qvS0tQA-j_Uendofvid
[starttext]
Edge of the Empire (กันตนา)
กำหนดฉาย : 28 เมษายน 2553
แนว : ดราม่า-แอ็คชั่น
นำแสดง : อานัส ฬาพานิช (กุมภวา), ลลิสา สนธิรอด(บุญฉวี), ปราปต์ปฏล สุวรรณบาง (ลิตงเจีย) , อธิวัฒน์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา (เตียวเหลียง), ธันญ์ ธนากร (ลำพูน), ซาร่า เล็กจ์ (บัวคำ), ยังเติร์ก กัลย์จาฤก (เฟเสียน), อรรถชัย อนันตเมฆ (ลิบุ๋น), อัศวิน เมืองสุวรรณ (ลิบอง / สีบุญ), กันตะ กัลย์จาฤก (ซุนโป), ยืนยง โอภากุล (บุญปัน), ดิลก ทองวัฒนา (ขุนสาย), เขมจิรา กมุทชาติ (ลำเพา)
กำกับ : นิรัตติศัย กัลย์จาฤก
เรื่องย่อ คนไททิ้งแผ่นดิน
แผ่นดินฮานหลังพุทธกาลไม่ถึงพันปี จิ๋นอ๋องผู้ปกครองอาณาจักรของชนเผ่าฮานเหนือลุ่มน้ำโขงอันยิ่งใหญ่ มีเมืองหลวงอยู่ที่นครโลยาง (ลัวะหยาง) พยายามแผ่ขยายอำนาจลงมาทางตอนใต้ เวลานั้นยังคงมีชนเผ่าต่าง ๆ อาศัยรวมกันอยู่มากมาย ชนเผ่าไทเป็นหนึ่งในนั้น แม้ชาวไทด้วยกันเองก็หารวมตัวกันเป็นอาณาจักรได้ไม่ ยังคงแยกกันปกครองตัวเอง ใครที่อ่อนแอกว่าก็ต้องรับชะตากรรมที่ผู้เข้มแข็งกว่ากำหนดให้ ดังเช่นชะตากรรมของเขาสมิงเชิงดาว ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่มีคนหลายชนเผ่ามาอาศัยอยู่ร่วมกัน เมื่อทัพฮานนำโดย เตียวเหลียง (อธิวัฒน์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา) ยกมาตี คนไททุกคนต่อสู้อย่างกล้าหาญ แต่น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ คนไทล้มตายหมดสิ้นจนแทบไม่เหลือชีวิตกลับมาบอกข่าวแพ้แก่ลูกเมียเลย
20 ปีต่อมาเมืองลือยังคงอยู่ใต้ปกครองของฮาน แต่เป็นโชคดียิ่งของเมืองลือเมื่อผู้ที่ฮานส่งมาปกครองนั้นคือแม่ทัพเตียวเหลียง ผู้มีน้ำใจเป็นธรรม ชาวเมืองลือแม้ลำบากกายแต่ก็หาได้ลำบากใจไม่ ในงานเทศกาลผีเสื้อ เตียวเหลียงอนุญาตให้คนไททั้ง 6 แคว้น ลือ เชียงแส ธาไนย ยูโร ข่านุ และไต๋ มาร่วมสังสรรค์กัน และจัดให้มีการแข่งขันฝีมือนานาชนิด
งานเทศกาลที่เต็มไปด้วยหนุ่มสาวชาวไทนี้เอง ลิบอง (อัศวิน เมืองสุวรรณ) ทหารเอกของฮานเกิดพึงใจในตัว บัวคำ (ซาร่า เล็กจ์) หญิงไทชาวลือน้องสาวของ ลำพูน (ธันญ์ ธนากร) ช่างตีดาบที่มีฝีมือ ลิบองตามนางบัวคำไปที่ทะเลสาบใช้กำลังลวนลามนาง เฟเสียน (ยังเติร์ก กัลย์จาฤก) ทหารฮานคนรักของบัวคำ เข้าไปช่วยไว้ได้ทัน เฟเสียนยึดดาบลิบองไว้ แล้วนำมามอบให้เตียวเหลียง เตียวเหลียงพิจารณาความผิดของลิบองตัดสินเนรเทศลิบองกลับโลยางทันที สร้างความโกรธแค้นให้ลิบองมาก
ลิบุ๋น (อรรถชัย อนันตเมฆ) ผู้สำเร็จราชการแห่งเมืองโลยาง โกรธจัดที่เตียวเหลียงบังอาจฉีกหน้าขับไล่ลูกชายของตนกลับโลยาง ลิบุ๋นจึงส่งลิบองกลับมาที่เมืองลืออีกครั้ง เพื่อประกาศคำสั่งของผู้สำเร็จราชการปลดเตียวเหลียงออกจากตำแหน่ง ด้วยสาเหตุทุจริตฉ้อราษฎร์บังหลวงและให้คุมตัวกลับโลยางในทันที แล้วให้ ลิตงเจีย (ปราปต์ปฎล สุวรรณบาง) ผู้เป็นน้องชายปกครองเมืองลือแทน ลิตงเจียประกาศยกเลิกข้อกำหนดการปกครองของเตียวเหลียงทั้งหมด แล้วประกาศเพิ่มภาษี บังคับให้คนไทกราบไหว้เคารพตนกับนางฮ่วนสี ภรรยา ห้ามคนไทมีอาวุธในครอบครองและห้ามฮานกับไทรักกัน มิฉะนั้นจะถูกลงโทษอย่างรุนแรงที่สุด ลิบองนำทหารออกยึดอาวุธจากบ้านคนลือทั้งหมดไม่เว้นแม้แต่มีดทำครัว อาวุธของคนไททั้งหมดถูกนำมาเผาแล้วหลอมปั้นเป็นหม้อติ้งขนาดใหญ่วางไว้ข่มขวัญชาวเมืองลือที่ลานเมือง สร้างความเจ็บปวดให้คนไทโดยเฉพาะลำพูนเป็นอย่างมาก
ในวันนั้นเองกุฉินคนขายแรงที่มีพละกำลังมหาศาลแต่สมองเท่าเด็กสิบขวบ ก่อเหตุทำรถม้าของนางฮ่วนสีคว่ำ นางฮ่วนสีถูกรถทับคอหักตายคาที่ ลำพูนรู้ดีว่าภัยมาถึงคนไทแน่แล้ว จึงรีบพากุฉินหลบหนีไปอยู่ที่บ้านตน ลิตงเจียโกรธจัดที่นางฮ่วนสีตาย สั่งล่าหัวกุฉินมาให้ได้ บัวคำกับลำพูนตัดสินใจที่จะลุกขึ้นสู้จิ๋น บัวคำขอให้ลำพูนพากุฉินหนีไปขอความช่วยเหลือจากคนไทที่เมืองเชียงแสก่อน โดยนางจะถ่วงเวลาเอาไว้และตามมาทีหลัง จนลำพูนกับกุฉินหลบหนีมาถึงเมืองเชียงแส ลิบองนำสารจากลิตงเจียมาข่มขู่ให้ บุญปัน (ยืนยง โอภากุล) เจ้าเมืองเชียงแส รีบส่งตัวลำพูนและกุฉินกลับเมืองลือ มิฉะนั้นเชียงแสจะลุกเป็นไฟ แต่บุญปันตัดสินใจไม่ส่งตัวลำพูนกับกุฉินให้ฮานเพราะเชื่อว่าถึงส่งให้เชียงแสก็ยังไม่พ้นความเดือดร้อนอยู่ดี ลำเพา ลูกขอทานที่บุญปันให้มาสอน บุญฉวี (ลลิสา สนธิรอด) ร้องเพลง พยายามคัดค้านแต่ก็มิอาจเปลี่ยนใจบุญปันได้ ทั้งหมดช่วยกันคิดหาอุบายลอบฆ่าลิตงเจีย โดยตั้งกองคาราวานเดินทางไปยังเมืองลือ เพื่อนำส่วยมาไถ่โทษที่ไม่สามารถจับลำพูนกับกุฉินส่งมาให้ได้ ลิตงเจียพอใจในความงามของบุญฉวี จึงหลงเชื่อยอมให้มีการร่ายรำร่ำสุราในกองทัพ เมื่อได้จังหวะหญิงชาวเชียงแสและกลุ่มของ กุมภวา (อานัส ฬาพานิช) ที่ปลอมตัวเข้ามาเป็นนักดนตรีก็นำอาวุธที่ซ่อนไว้เข้าฟาดฟันจิ๋นจนแพ้พ่าย
หลายปีต่อมา จิ๋นอ๋องยังตรอมใจกับการเสียทหารจิ๋นเกือบสองแสนที่ทุ่งลาดขวัญ ซุนโป (กันตะ กัลย์จาฤก) รู้ว่า ขุนสาย (ดิลก ทองวัฒนา) เมืองไต๋เป็นคนโลภจึงมุ่งสร้างรอยร้าวจากเมืองไต๋ จิ๋นอ๋องส่งทองคำล้ำค่า พรมแดง หญิงสาวมากำนัลแก่ขุนสาย และอวยพรให้ขุนสายได้เป็นผู้นำแคว้นไทในเร็ววัน โดยหญิงที่ส่งมากำนัลนั้นแท้จริงคือลำเพานั่นเอง ซึ่งครั้งนี้เธอยั่วยวนขุนสายจนหลงใหล พร้อมใช้มารยาหญิงหลอกล่อให้ขุนสายนำเชียงแสมาเป็นของกำนัลให้แก่นาง ขุนสายกับลำเพายกกำลังเมืองไต๋ไปยึดเมืองเชียงแส คืนนั้นเมืองเชียงแสถูกเผาทำลายย่อยยับ ซุนโปรู้ข่าวก็ดีใจว่าทองทำลายไทได้ รีบเสนอจิ๋นอ๋องให้แต่งตั้งเตียวเหลียงเป็นแม่ทัพไปปราบคนไทอีกครั้ง เตียวเหลียงจำใจกลับโลยาง เพื่อรับบัญชาจิ๋นอ๋อง
กุมภวานำคนไทรบกับจิ๋นอีกครั้ง ทว่าครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อน กำลังไทเหลือเพียงน้อยนิดเชียงแสกับไต๋วอดวายหมดสิ้น ยูโรกับข่านุก็กำลังลำบาก แม่ทัพที่มีสติปัญญาและกล้าหาญตายหมด ไพร่พลมีน้อยจำเป็นต้องเกณฑ์เด็กหนุ่มมาช่วยรบ ในขณะที่เตียวเหลียงยกทัพผ่านเขาธาไนย เข้ามาใกล้ทุ่งลาดขวัญทุกที ฤาการรบในครั้งนี้ คนไทอาจสิ้นเผ่าพันธุ์บนผืนดินแห่งนี้…
คนไททิ้งแผ่นดิน คืออีกหนึ่งภาพยนตร์ที่จะนำไปสู่ความซาบซึ้งและตราตรึงใจให้คนไทยรักชาติมากยิ่งขึ้น เตรียมตัวพบกันในวันที่ 28 เมษายน 2553 นี้!! ทุกโรงภาพยนตร์
[endtext]
[starttext]
Edge of the Empire (กันตนา)
กำหนดฉาย : 28 เมษายน 2553
แนว : ดราม่า-แอ็คชั่น
นำแสดง : อานัส ฬาพานิช (กุมภวา), ลลิสา สนธิรอด(บุญฉวี), ปราปต์ปฏล สุวรรณบาง (ลิตงเจีย) , อธิวัฒน์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา (เตียวเหลียง), ธันญ์ ธนากร (ลำพูน), ซาร่า เล็กจ์ (บัวคำ), ยังเติร์ก กัลย์จาฤก (เฟเสียน), อรรถชัย อนันตเมฆ (ลิบุ๋น), อัศวิน เมืองสุวรรณ (ลิบอง / สีบุญ), กันตะ กัลย์จาฤก (ซุนโป), ยืนยง โอภากุล (บุญปัน), ดิลก ทองวัฒนา (ขุนสาย), เขมจิรา กมุทชาติ (ลำเพา)
กำกับ : นิรัตติศัย กัลย์จาฤก
เรื่องย่อ คนไททิ้งแผ่นดิน
แผ่นดินฮานหลังพุทธกาลไม่ถึงพันปี จิ๋นอ๋องผู้ปกครองอาณาจักรของชนเผ่าฮานเหนือลุ่มน้ำโขงอันยิ่งใหญ่ มีเมืองหลวงอยู่ที่นครโลยาง (ลัวะหยาง) พยายามแผ่ขยายอำนาจลงมาทางตอนใต้ เวลานั้นยังคงมีชนเผ่าต่าง ๆ อาศัยรวมกันอยู่มากมาย ชนเผ่าไทเป็นหนึ่งในนั้น แม้ชาวไทด้วยกันเองก็หารวมตัวกันเป็นอาณาจักรได้ไม่ ยังคงแยกกันปกครองตัวเอง ใครที่อ่อนแอกว่าก็ต้องรับชะตากรรมที่ผู้เข้มแข็งกว่ากำหนดให้ ดังเช่นชะตากรรมของเขาสมิงเชิงดาว ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่มีคนหลายชนเผ่ามาอาศัยอยู่ร่วมกัน เมื่อทัพฮานนำโดย เตียวเหลียง (อธิวัฒน์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา) ยกมาตี คนไททุกคนต่อสู้อย่างกล้าหาญ แต่น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ คนไทล้มตายหมดสิ้นจนแทบไม่เหลือชีวิตกลับมาบอกข่าวแพ้แก่ลูกเมียเลย
20 ปีต่อมาเมืองลือยังคงอยู่ใต้ปกครองของฮาน แต่เป็นโชคดียิ่งของเมืองลือเมื่อผู้ที่ฮานส่งมาปกครองนั้นคือแม่ทัพเตียวเหลียง ผู้มีน้ำใจเป็นธรรม ชาวเมืองลือแม้ลำบากกายแต่ก็หาได้ลำบากใจไม่ ในงานเทศกาลผีเสื้อ เตียวเหลียงอนุญาตให้คนไททั้ง 6 แคว้น ลือ เชียงแส ธาไนย ยูโร ข่านุ และไต๋ มาร่วมสังสรรค์กัน และจัดให้มีการแข่งขันฝีมือนานาชนิด
งานเทศกาลที่เต็มไปด้วยหนุ่มสาวชาวไทนี้เอง ลิบอง (อัศวิน เมืองสุวรรณ) ทหารเอกของฮานเกิดพึงใจในตัว บัวคำ (ซาร่า เล็กจ์) หญิงไทชาวลือน้องสาวของ ลำพูน (ธันญ์ ธนากร) ช่างตีดาบที่มีฝีมือ ลิบองตามนางบัวคำไปที่ทะเลสาบใช้กำลังลวนลามนาง เฟเสียน (ยังเติร์ก กัลย์จาฤก) ทหารฮานคนรักของบัวคำ เข้าไปช่วยไว้ได้ทัน เฟเสียนยึดดาบลิบองไว้ แล้วนำมามอบให้เตียวเหลียง เตียวเหลียงพิจารณาความผิดของลิบองตัดสินเนรเทศลิบองกลับโลยางทันที สร้างความโกรธแค้นให้ลิบองมาก
ลิบุ๋น (อรรถชัย อนันตเมฆ) ผู้สำเร็จราชการแห่งเมืองโลยาง โกรธจัดที่เตียวเหลียงบังอาจฉีกหน้าขับไล่ลูกชายของตนกลับโลยาง ลิบุ๋นจึงส่งลิบองกลับมาที่เมืองลืออีกครั้ง เพื่อประกาศคำสั่งของผู้สำเร็จราชการปลดเตียวเหลียงออกจากตำแหน่ง ด้วยสาเหตุทุจริตฉ้อราษฎร์บังหลวงและให้คุมตัวกลับโลยางในทันที แล้วให้ ลิตงเจีย (ปราปต์ปฎล สุวรรณบาง) ผู้เป็นน้องชายปกครองเมืองลือแทน ลิตงเจียประกาศยกเลิกข้อกำหนดการปกครองของเตียวเหลียงทั้งหมด แล้วประกาศเพิ่มภาษี บังคับให้คนไทกราบไหว้เคารพตนกับนางฮ่วนสี ภรรยา ห้ามคนไทมีอาวุธในครอบครองและห้ามฮานกับไทรักกัน มิฉะนั้นจะถูกลงโทษอย่างรุนแรงที่สุด ลิบองนำทหารออกยึดอาวุธจากบ้านคนลือทั้งหมดไม่เว้นแม้แต่มีดทำครัว อาวุธของคนไททั้งหมดถูกนำมาเผาแล้วหลอมปั้นเป็นหม้อติ้งขนาดใหญ่วางไว้ข่มขวัญชาวเมืองลือที่ลานเมือง สร้างความเจ็บปวดให้คนไทโดยเฉพาะลำพูนเป็นอย่างมาก
ในวันนั้นเองกุฉินคนขายแรงที่มีพละกำลังมหาศาลแต่สมองเท่าเด็กสิบขวบ ก่อเหตุทำรถม้าของนางฮ่วนสีคว่ำ นางฮ่วนสีถูกรถทับคอหักตายคาที่ ลำพูนรู้ดีว่าภัยมาถึงคนไทแน่แล้ว จึงรีบพากุฉินหลบหนีไปอยู่ที่บ้านตน ลิตงเจียโกรธจัดที่นางฮ่วนสีตาย สั่งล่าหัวกุฉินมาให้ได้ บัวคำกับลำพูนตัดสินใจที่จะลุกขึ้นสู้จิ๋น บัวคำขอให้ลำพูนพากุฉินหนีไปขอความช่วยเหลือจากคนไทที่เมืองเชียงแสก่อน โดยนางจะถ่วงเวลาเอาไว้และตามมาทีหลัง จนลำพูนกับกุฉินหลบหนีมาถึงเมืองเชียงแส ลิบองนำสารจากลิตงเจียมาข่มขู่ให้ บุญปัน (ยืนยง โอภากุล) เจ้าเมืองเชียงแส รีบส่งตัวลำพูนและกุฉินกลับเมืองลือ มิฉะนั้นเชียงแสจะลุกเป็นไฟ แต่บุญปันตัดสินใจไม่ส่งตัวลำพูนกับกุฉินให้ฮานเพราะเชื่อว่าถึงส่งให้เชียงแสก็ยังไม่พ้นความเดือดร้อนอยู่ดี ลำเพา ลูกขอทานที่บุญปันให้มาสอน บุญฉวี (ลลิสา สนธิรอด) ร้องเพลง พยายามคัดค้านแต่ก็มิอาจเปลี่ยนใจบุญปันได้ ทั้งหมดช่วยกันคิดหาอุบายลอบฆ่าลิตงเจีย โดยตั้งกองคาราวานเดินทางไปยังเมืองลือ เพื่อนำส่วยมาไถ่โทษที่ไม่สามารถจับลำพูนกับกุฉินส่งมาให้ได้ ลิตงเจียพอใจในความงามของบุญฉวี จึงหลงเชื่อยอมให้มีการร่ายรำร่ำสุราในกองทัพ เมื่อได้จังหวะหญิงชาวเชียงแสและกลุ่มของ กุมภวา (อานัส ฬาพานิช) ที่ปลอมตัวเข้ามาเป็นนักดนตรีก็นำอาวุธที่ซ่อนไว้เข้าฟาดฟันจิ๋นจนแพ้พ่าย
หลายปีต่อมา จิ๋นอ๋องยังตรอมใจกับการเสียทหารจิ๋นเกือบสองแสนที่ทุ่งลาดขวัญ ซุนโป (กันตะ กัลย์จาฤก) รู้ว่า ขุนสาย (ดิลก ทองวัฒนา) เมืองไต๋เป็นคนโลภจึงมุ่งสร้างรอยร้าวจากเมืองไต๋ จิ๋นอ๋องส่งทองคำล้ำค่า พรมแดง หญิงสาวมากำนัลแก่ขุนสาย และอวยพรให้ขุนสายได้เป็นผู้นำแคว้นไทในเร็ววัน โดยหญิงที่ส่งมากำนัลนั้นแท้จริงคือลำเพานั่นเอง ซึ่งครั้งนี้เธอยั่วยวนขุนสายจนหลงใหล พร้อมใช้มารยาหญิงหลอกล่อให้ขุนสายนำเชียงแสมาเป็นของกำนัลให้แก่นาง ขุนสายกับลำเพายกกำลังเมืองไต๋ไปยึดเมืองเชียงแส คืนนั้นเมืองเชียงแสถูกเผาทำลายย่อยยับ ซุนโปรู้ข่าวก็ดีใจว่าทองทำลายไทได้ รีบเสนอจิ๋นอ๋องให้แต่งตั้งเตียวเหลียงเป็นแม่ทัพไปปราบคนไทอีกครั้ง เตียวเหลียงจำใจกลับโลยาง เพื่อรับบัญชาจิ๋นอ๋อง
กุมภวานำคนไทรบกับจิ๋นอีกครั้ง ทว่าครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อน กำลังไทเหลือเพียงน้อยนิดเชียงแสกับไต๋วอดวายหมดสิ้น ยูโรกับข่านุก็กำลังลำบาก แม่ทัพที่มีสติปัญญาและกล้าหาญตายหมด ไพร่พลมีน้อยจำเป็นต้องเกณฑ์เด็กหนุ่มมาช่วยรบ ในขณะที่เตียวเหลียงยกทัพผ่านเขาธาไนย เข้ามาใกล้ทุ่งลาดขวัญทุกที ฤาการรบในครั้งนี้ คนไทอาจสิ้นเผ่าพันธุ์บนผืนดินแห่งนี้…
คนไททิ้งแผ่นดิน คืออีกหนึ่งภาพยนตร์ที่จะนำไปสู่ความซาบซึ้งและตราตรึงใจให้คนไทยรักชาติมากยิ่งขึ้น เตรียมตัวพบกันในวันที่ 28 เมษายน 2553 นี้!! ทุกโรงภาพยนตร์
[endtext]
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น