The Law Of Ueki แสบซ่าผ่ากฎเทพ

[postlink]https://aodnoommovieclub.blogspot.com/2010/07/law-of-ueki.html[/postlink]http://www.youtube.com/watch?v=7dVBXGt9KDQendofvid
[starttext]



ผ่ากฏอลเอง หรือ แสบซ่าผ่ากฎเทพ (ญี่ปุ่น: うえきの法則 Ueki no Housoku ?) หรือ The Law of Ueki เป็นการ์ตูนญี่ปุ่น ผลงานของ สึบาสะ ฟุคุจิ ลงตีพิมพ์ในนิตยสารโชเน็นซันเดย์ ของสำนักพิมพ์โชงะกุกัง ในประเทศญี่ปุ่น มีความยาวทั้งหมดจำนวน 16 เล่มจบ และเรื่องนี้ ยังมีภาคใหม่ลงต่อในชื่อว่า ผ่ากฎอลเวง Plus (ญี่ปุ่น: うえきの法則+ Ueki no Housoku PLUS ?) ในนิตยสารเล่มเดียวกัน เมื่อ กันยายน พ.ศ. 2548 โดย สำนักพิมพ์วิบูลย์กิจ เป็นผู้ได้ลิขสิทธิ์แปลและตีพิมพ์เป็นภาคภาษาไทย ปัจจุบันออกมาครบทั้ง 16 เล่มแล้ว

ผ่ากฏอลเวง ถูกนำไปสร้างเป็นอะนิเมะ โดยสตูดิโอดีน ออกอากาศทางสถานีทีวีโตเกียว ตอนแรกในวันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2548 และอวสานลงในวันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2549 มีจำนวนตอนทั้งหมด 51 ตอน สำหรับในประเทศไทยบริษัทโรสวิดีโอได้รับลิขสิทธิ์ผลิตเป็นวีซีดีและดีวีดี โดยใช้ชื่อภาษาไทยว่า "แสบซ่าส์ ผ่ากฎเทพ" และออกฉายในรายการโมเดิร์นไนน์การ์ตูน ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2550 และอวสานลงในวันเสาร์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2551 โดยใช้ชื่อภาษาไทยว่า "อุเอคิ ผ่ามิติอลเวง"


เนื้อเรื่อง

เรื่องราวใน ผ่ากฏอลเวง(แสบซ่าผ่ากฎเทพ) เริ่มมาจากบนสวรรค์ ที่กำลังมีการหาผู้เป็นพระเจ้าคนใหม่ โดยมี ผู้สมัครเป็นพระเจ้า ทั้งหมด 100 คน ซึ่ง ผู้สมัครเป็นพระเจ้าแต่ละคน จะต้องลงไปยังโลกมนุษย์ เพื่อค้นหาเด็กนักเรียนชั้น ม.ต้น เป็นตัวแทนของตนเอง และมอบพลังพิเศษให้ 1 อย่าง สำหรับใช้ในการต่อสู้ กับเด็กม.ต้นคนอื่นๆที่เป็น ผู้มีพลังพิเศษ ทั้งหมด 100 คน และเด็กนักเรียนตัวแทนของใคร ที่เป็นผู้ชนะในการประลองครั้งนี้ ผู้สมัครเป็นพระเจ้าที่ดูแลเด็กคนนั้นอยู่ จะได้เป็นพระเจ้าคนใหม่ ส่วนเด็กนักเรียนที่ชนะ จะได้รับ "ไซต์แห่งความว่างเปล่า" ซึ่งสามารถจะเลือก ไซต์ที่ตนเองต้องการอะไรก็ได้หนึ่งอย่าง

โคบายาชิ (โคบะเซน หรือ Mr.K) หนึ่งในผู้สมัครเป็นพระเจ้า ที่ลงมายังโลกมนุษย์มาเป็นอาจารย์ในโรงเรียน ฮิโนะคุนิ เขาได้พบกับเด็กนักเรียนชั้นปี1 อุเอคิ โคสุเกะ เด็กหนุ่มที่เชื่อมั่นใน ความถูกต้อง โคบายาชิ จึงตัดสินใจ มอบพลัง "เปลี่ยนขยะเป็นต้นไม้" และส่ง อุเอคิ เป็นตัวแทนของตนเองเข้าร่วมในการประลองครั้งนี้ โดยที่ไม่รู้ว่าอุเอคิเป็นชาวสวรรค์ที่ถูกส่งมาโดยพ่อของตนที่ต้องการจะเป็นพระเจ้าแต่กลับไม่ได้ถูกรับเลือกให้เป็นผู้สมัครพระเจ้า

ในตอนจบของเรื่องหลังจากที่อุเอคิสามารถเอาชนะอาน่อนได้สำเร็จ อุเอคิได้รับไซต์แห่งความว่างเปล่าและเขียนว่า ไซต์ได้พบกันอีกครั้ง เพื่อให้โคบายาชิกลับมาเป็นครูของตนอีกครั้ง

พลังพิเศษ
เหล่านักเรียนมัธยมต้นที่เข้าร่วมการประลองจะได้รับพลังมาจากผู้สมัครเป็นพระเจ้า โดยพลังของทุกคนนั้นจะเป็นลักษณะพลังที่เปลี่ยนสิ่งหนึ่งให้กลายเป็นอีกสิ่งหนึ่ง เช่น พลังเปลี่ยนขยะเป็นต้นไม้ พลังเปลี่ยนผ้าคาดหัวเป็นเหล็ก พลังเปลี่ยนลูกปัดเป็นระเบิด ฯลฯ โดยพลังทุกชนิดจะมีเป็นกลไกลป้องกันไม่ให้พลังพิเศษมีอำนาจมากเกินไป เช่น อุเอคิจะใช้พลังเปลี่ยนขยะเป็นต้นไม้ได้ขยะต้องเป็นขยะที่อยู่ในมือเท่านั้น ทุกครั้งที่โรเบอร์โต้ใช้พลังจะเสียอายุไป 1 ปี พลังทุกชนิดจะสามารถพัฒนาเป็นระดับสองได้ ซึ่งก็คือพลังที่ได้รับการพัฒนาขึ้นอีกขั้นหนึ่ง ซึ่งมักจะเป็นการเสริมหรือสนับสนุนพลังเดิมของตนให้แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม พระเจ้าเคยบอกไว้ว่าเงื่อนไขของการใช้พลังระดับสองได้นั้นคือประสบการณ์และความรู้สึกที่อยากจะแข็งแกร่ง ปั๊คเคยบอกกับอุเอคิว่าที่อุเอคิไม่สามารถใช้พลังระดับสองได้นั้น เพราะเทวภัณฑ์ของอุเอคิถ่วงพลังเปลี่ยนขยะให้เป็นต้นไม้ไม่ให้ก้าวสู่ระดับสอง (ยกเว้นกรณีของโรเบอร์โต้) ในที่สุดอุเอคิยอมละทิ้งการใช้เทวภัณฑ์และสามารถใช้พลังระดับสองได้สำเร็จ

กฎของการประลอง
-ผู้สมัครเป็นพระเจ้าแต่ละคน สามารถเลือกตัวแทนและมอบพลังพิเศษ ได้เพียงแค่ คนเดียวและพลังเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
-ไซต์ คือ ความสามารถพิเศษที่แต่ละคนมี โดยที่แต่ละคนจะมีไซต์ของตัวเองอยู่หลายอย่าง เช่น ไซต์เรียนเก่ง ไซต์เต้นรำเก่ง ไซต์กินเร็ว ไซต์ตีสนิทเก่ง ไซต์แม่นยำ ฯลฯ
-การต่อสู้กันของผู้มีพลังพิเศษ จะรู้ผลแพ้ชนะได้ โดยที่ต้องทำให้ศัตรู หมดสติไป ผู้ชนะจะได้ไซต์เพิ่มมา 1 อย่าง ส่วนผู้แพ้ จะสูญเสียพลังพิเศษและไซต์และออกจากการประลองไป
-หากใช้พลังพิเศษ ทำร้ายคนอื่นที่ไม่ใช่ผู้มีพลังพิเศษ จะต้องสูญเสียไซต์ของตนเองไป 1 อย่าง ทุกๆครั้ง
-เมื่อผู้มีพลังพิเศษคนใดมีไซต์เป็น 0 ตัวตนจะต้องหายไป
-ห้ามผู้สมัครเป็นพระเจ้า เข้าไปช่วยเหลือหรือยุ่งเกี่ยวกับการประลองใดๆทั้งสิ้น
-ผู้สมัครเป็นพระเจ้าที่ละเมิดกฏจะต้องถูกส่งกลับไปในนรกและมีโทษประหารชีวิตสถานเดียว

ตัวละคร

ทีมอุเอคิ
อุเอคิ โคสุเกะ (植木耕助)
ตัวเอกของเรื่อง เด็กม.ต้นผู้ที่ได้รับ พลังเปลี่ยนขยะในมือให้เป็นต้นไม้ โดยมีเงื่อนไขข้อจำกัดคือต้องเป็นขยะที่กำได้ในมือเท่านั้น ในช่วงกลางของเรื่องอุเอคิพบว่าตัวเขาเป็นชาวสวรรค์และสามารถใช้เทวภัณฑ์ได้ เมื่อนำพลังของเขามาผสานกับเทวภัณฑ์ก็จะกลายเป็นนวเทวภัณฑ์ ทำให้เทวภัณฑ์ของเขามีความแข็งแกร่งขึ้นมากกว่าเทวภัณฑ์ทั่วๆไป อุเอคิเป็นคนที่มีนิสัยเรื่อยๆ ออกจะเฉื่อยชา แต่เป็นคนที่เชื่อมั่นใน ความถูกต้อง อยู่เสมอ เมื่อเวลาที่มีใครต้องการความช่วยเหลือ เขาจะไม่เคยนิ่งดูดายเลยแม้แต่ครั้งเดียว นี่จึงมักจะเป็นเหตุที่ทำให้ อุเอคิเสียไซต์ไปบ่อยๆครั้ง เพื่อปกป้องช่วยเหลือคนอื่นๆ
ในเล่มที่ 15 โคบายาชิได้เปิดเผยว่า แท้จริงแล้ว พลังของอุเอคิมีลักษณะเป็น วัฏจักร ซึ่งจะแตกต่างกับพลังพิเศษของคนอื่นๆ ตรงที่ พลังของเขานั้นสามารถใช้ได้ในสองทาง คือสามารถเปลี่ยนขยะให้เป็นต้นไม้และสามารถนำส่วนหนึ่งของต้นไม้มาใช้เป็นขยะเพื่อเปลี่ยนให้เป็นต้นไม้ต้นใหม่เพิ่มได้อีก (แต่พลังของคนอื่นๆ นั้น จะสามารถเปลี่ยนได้แค่ทางเดียวเท่านั้น เช่น เปลี่ยนผ้าคาดหัวเป็นเหล็ก แต่ไม่สามารถเปลี่ยนเหล็กให้กลายเป็นผ้าได้ (แต่เหล็กที่เปลี่ยนได้มา สามารถจะคืนกลับสภาพเดิมเป็นผ้าคาดหัวได้ ตามเงื่อนไขข้อจำกัด) ดังนั้น ด้วยคุณสมบัติพิเศษของพลังของอุเอคิ ทำให้ระดับสองของเขานั้นคือการนำพลังวัฏจักรนั้นใช้กับพลังของอีกฝ่ายหนึ่ง หรือก็คือเปลี่ยนให้พลังของอีกฝ่ายย้อนกลับไปเริ่มต้นใหม่ เมื่อรวมกับเทวภัณฑ์ก็จะกลายเป็นเทวภัณฑ์ที่สามารถย้อนกลับพลังของฝ่ายตรงข้ามได้ โดยอุเอคิ ได้ตั้งชื่อให้กับการใช้พลังระดับสองของตนเองว่า "รีเวิร์ส (Reverse) "
โมริ ไอ (森あい)
สาวน้อยธรรมดาๆ คนหนึ่ง ที่ได้รู้จักกับอุเอคิ และรู้เรื่องของการประลอง ด้วยเห็นว่า อุเอคิเป็นคนที่ยอมเสียสละตนเองช่วยเหลือคนอื่น บ่อยๆครั้ง แม้ว่าตนเองจะต้องเสียไซต์ไปก็ตาม ความรู้สึกประทับใจในตัวอุเอคิของเธอ ทำให้เธอตัดสินใจจะคอยช่วยเหลืออุเอคิ เพื่อที่จะช่วยปกป้องไซต์ของอุเอคิด้วย
โมริมักจะติดตามและช่วยเหลืออุเอคิไปทุกที่ จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ที่ อินุมารุ จำเป็นต้องตัดสินใจมอบพลังพิเศษให้โมริ ทำให้เธอมีโอกาสได้ตัดสินใจที่จะเข้าร่วมการประลองในรอบสองด้วย และเธอก็ตกลง เพื่อที่จะได้ช่วยเหลืออุเอคิได้อีกคนหนึ่ง แต่เธอตกลงเข้าร่วมการประลอง โดยทั้งๆที่ เธอยังไม่รู้จักพลังพิเศษของตัวเองเลย เนื่องจากอินุมารุยังไม่ทันจะได้บอกพลังพิเศษของเธอซะก่อน แล้วอย่างนี้เธอจะทำอะไรได้ในการประลองนี้เหรอนี่
ในภายหลัง โมริก็ได้ทราบว่า พลังของตนเองคือ พลังเปลี่ยนอีกฝ่ายให้เป็นคนรักแว่นตา โดยมีเงื่อนไขคือต้องให้อีกฝ่ายโพสท่าไร้เดียงสา (เอามือ2ข้างมาไว้ที่ริมฝีปาก แล้วยกขาขวาไปข้างหลัง) เมื่อพลังนี้ทำงานจะสามารถล้างสมองให้อีกฝ่ายยอมทำทุกอย่างเพื่อแว่นตาทุกชนิด ซึ่งเป็นพลังที่ค่อนข้างจะเหมาะกับเธออยู่เหมือนกัน เพราะเธอเองก็มีแว่นตาติดตัวอยู่เสมอๆ (เงื่อนไขค่อนข้างยาก ยกเว้นใช้กับคนปัญญาอ่อน) ในเรื่องใช้แค่ไม่กี่ครั้ง แต่มันก็ทำให้ชนะมาได้
แว่นตาของโมริที่เธอมักจะคาดไว้ที่หน้าผากนั้น เป็นแว่นสายตายาว เธอจะใส่เฉพาะตอนอ่านหนังสือหรือตอนจดบันทึก บางครั้งเธอจะทำอาหารให้อุเอคิและคนอื่นๆได้กินกัน ซึ่งแต่ละอย่างล้วนหน้าตาสยองทั้งนั้น แต่รสชาติอร่อยผิดกับหน้าตาอาหารเสียอีก

ซาโนะ เซอิจิโร่ (佐野清一郎)
เป็นคนจากทางเหนือที่ฝันอยากจะสร้างบ่อน้ำพุร้อนเป็นของตัวเอง เขาได้พบกับอุเอคิในเล่มแรกสุดและได้เป็นเพื่อนกับอุเอคิ พลังของเขาคือ พลังเปลี่ยนผ้าคาดหัวให้เป็นเหล็ก โดยมีเงื่อนไขข้อจำกัดคือต้องกลั้นหายใจผ้าคาดหัวจะก็กลายเป็นเหล็ก ถึงพลังจะดูธรรมดา แต่ซาโนะก็สามารถใช้พลังนี้พลิกแพลงได้หลายแบบไม่ว่าจะเป็นการสร้างสปริง, หอกเหล็ก, โล่ ฯลฯ เมื่อพลังของเขาก้าวถึงระดับสอง เขาจะสามารถเสริมแรงแม่เหล็กเข้าไปได้ ทำให้พลิกแพลงพลังได้มากขึ้นอีก ที่ตาซ้ายเขาจะมีแผลน้ำร้อนลวก เกิดจากเมื่อเขาอายุ4ขวบก็ได้ไปขุดหาบ่อน้ำแร่แล้วโดนน้ำร้อนพุ่งใส่
ริงโกะ เจราร์ด (鈴子・ジェラード)
อดีตกลุ่มโรเบอร์โต้จูดัง ที่ตัดสินใจร่วมทางกับอุเอคิ มี พลังเปลี่ยนลูกปัดให้เป็นระเบิด เงื่อนไขจำกัดก็คือ ต้องเป็นลูกปัดที่เคยสัมผัสมาแล้วและลูกปัดนั้นต้องถูกดีดโดยริงโกะเท่านั้น เมื่อลูกปัดกระเด็นไปโดนอะไรก็จะระเบิดทันที ซึ่งการระเบิดสามารถควบคุมได้ในระยะ1เมตร (คือต้องให้ระเบิดใกล้ๆตัว อย่างเช่นตอนที่ใช้ "ริงโกะร๊อกเกต") ซึ่งริงโกะบางครั้งได้ใช้พลังนี่ผสานกับความสามารถของซาโนะ ตอนท้ายๆได้ถุงมือระเบิดมาแต่ก็ใช้แบบมีประโยชน์แค่2ครั้งตอนที่สู้กับบัน ดีคูท จากทีมบาโร่ และตอนที่ป้องกันโมริ เป็นคนชอบสัตว์และสิ่งมีชีวิตที่น่ารักทุกชนิด ถ้ามีใครเรียกเธอว่า"ไร้ประโยชน์" เธอจะโมโหฟิวส์ขาดจนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ นอกจากนี้ก่อนที่จะเข้าร่วมกับอุเอคิเธอเคยแอบชอบโรเบอร์โต้ ตอนจบเธอได้สารภาพรักกับโรเบอร์โต้แต่โรเบอร์โต้หลุดปากด่าว่า"สวะ" เธอจึงตบโรเบอร์โต้ด้วย
โซยะ ฮิเดโยชิ (宗屋ヒデヨシ)
เป็นคนที่ดูแลบ้านดวงตะวัน ซึ่งเป็นโรงเรียนอนุบาล เขามี พลังเปลี่ยนเสียงให้เป็นภาพเหมือน ซึ่งเป็นเสียงของใครก็ได้แล้วจะนำไปติดตรงไหนก็ได้ในระยะ 10 เมตร แล้วเปลี่ยนกลับไปเป็นเสียงซึ่งเขาจะทำให้ศัตรูสับสน ซึ่งตรงกับลักษณะของเขาที่เป็นคนเจ้าเล่ห์และมักต่อสู้ด้วยกลเม็ดมากมาย ไม่ว่าจะเป็น แม็กนั่ม (ท่าจิ้มก้น) , นัตโตแฟลช (ท่าที่ฮิเดโยชิเอาถั่วนัตโตราดหัวคู่ต่อสู้) , โชยุบอมเบอร์ (ท่าบีบหลอดโซยุใส่ตาคู่ต่อสู้ เคยใช้กับอุเอคิมาแล้ว) และวาซาบิบีม (ท่าเอาหลอดวาซาบิมาแหย่จมูกคู่ต่อสู้) เงื่อนไขข้อจำกัดของพลังของเขาคือต้องงอนิ้ว (นิ้วมือหรือนิ้วเท้าก็ได้)
เท็งโกะ (テンコ)
เป็นสัตว์เทพที่ถูกขับไล่จากสวรรค์ แต่เข้าร่วมพวกอุเอคิและช่วยเหลือให้เขาใช้เทวภัณฑ์ ภายในตัวเท็งโกะจะมีห้องปลุกพลังซึ่งจะสามารถเลื่อนระดับของชาวสวรรค์ได้ แต่ถ้าสัตว์เทพเลื่อนระดับให้ชาวสวรรค์เกิน 6 ครั้ง สัตว์เทพจะตาย เป็นคนที่ชอบกินอาหาร โดยเฉพาะข้าวหน้าเนื้อ มักเรียกตัวเองว่าเป็นกรูเม่ (ภาษาฝรั่งเศส แปลว่า คนกินจุ)
โคบายาชิ (โคบะเซน) (小林)
อาจารย์ที่สอนอุเอคิและโมริ ตัวจริงคือผู้สมัครเป็นพระเจ้าที่หวังจะไม่ให้ไซต์แห่งความว่างเปล่าตกอยู่ในมือคนชั่ว อดีตเป็นผู้สมัครเป็นพระเจ้าให้อุเอคิ แต่ถูกส่งลงนรกเพราะยื่นมือเข้าไปช่วยอุเอคิขณะที่อุเอคิกำลังสู้กับโรเบอร์โต้ ปัจจุบันเป็นอยู่ในนรกแต่ถือเป็นผู้สมัครเป็นพระเจ้าให้โมริแทน เป็นคนชอบพูดเรื่องความถูกต้อง
อินุมารุ (犬丸)
ผู้สมัครเป็นพระเจ้าของซาโนะ ชื่นชมและนับถือโคบายาชิ เป็นคนชอบพูดเรื่องความถูกต้องเช่นเดียวกับโคบายาชิ ปัจจุบันอยู่ในนรกเพราะมอบพลังให้โมริ มักถูกโคบายาชิเรียกว่า น้องหมา และโดนโคบายาชิแกล้งบ่อยๆ ในหนังสือการ์ตูน เขาสามารถผ่าแอปเปิ้ลด้วยมือเปล่าได้ ตอนจบได้เป็นพระเจ้าคนใหม่
โยโดกาว่า หรือ โยจจัง (淀川(よっちゃん))
เป็นคนที่มาแทนครูโคบายาชิในตอนแรก มีความประสงค์ที่จะเป็นผู้ช่วยของพระเจ้า ซึ่งเบื้องหลังเจ้าตัวก็ร่วมมือกับมาร์กาเร็ตอย่างลับๆเพื่อที่จะให้อุเอคิถอนตัว ปัจจุบันยังคงอยู่ร่วมกับทีมอุเอคิและได้ช่วยส่งข้อความของโคบายาชิกับอินุมารุไปให้พวกอุเอคิ ไม่ก็นำวิดีโอการแข่งขันไปให้โคบายาชิกับอินุมารุดูด้วยทีวีของเขา

โรเบอร์โต้จูดัง
ด้วยเงื่อนไขการใช้พลังของโรเบอร์โต้ ทำให้เขาไม่สามารถต่อสู้กับผู้มีพลังพิเศษหลายๆคนด้วยตัวคนเดียวได้ เขาจึงตั้งกลุ่มโรเบอร์โต้จูดังขึ้น เป็นกลุ่มผู้มีพลังพิเศษที่นำโดยโรเบอร์โต้ ไฮเดิร์น ซึ่งมีเป้าหมายคือกำจัดผู้มีพลังทุกคน แล้วเมื่อเหลือเพียงกลุ่มโรเบอร์โต้จูดัง ทุกคนจะถอนตัวแล้วให้โรเบอร์โต้ชนะ แล้วโรเบอร์โต้จะใช้ ไซต์แห่งความว่างเปล่า ล้างโลกให้กลับสู่จุดเริ่มต้น (หมายถึงทำลายกฎต่างๆทั้งหมด) และสมาชิกทุกคนจะได้รับดินแดนไปครอบครอง อุเอคิได้รับการชักชวนเข้าร่วมกลุ่มโรเบอร์โต้จูดังเพราะเขาเป็นคนล้มคามุยได้ แต่อุเอคิมีเป้าหมายที่จะทำลายกลุ่มโรเบอร์โต้จูดังทั้งหมด ซึ่งโรเบอร์โต้ก็รู้อยู่แล้ว สมาชิกในกลุ่มได้แก่

โรเบอร์โต้ ไฮเดิร์น (ロベルト・ハイドン)
เป็นชาวสวรรค์เช่นเดียวกับอุเอคิ เขาเป็นชาวสวรรค์ระดับสิบดาว และมีความสามารถ พลังเปลี่ยนของในอุดมคติให้กลายเป็นจริง โดยต้องแลกกับอายุขัยที่ลดลงไปทีละ1ปีที่ใช้พลัง เมื่อผสานเข้ากับเทวภัณฑ์ก็จะกลายเป็นเทวภัณฑ์ในอุดมคติ พลังระดับสองของโรเบอร์โต้จะสามารถเปลี่ยนสิ่งของที่เขาสร้างขึ้นให้มีสีแดงกับฟ้า โดยแดงทำให้หนัก ฟ้าทำให้เบา ซึ่งจะทำให้ควบคุมแรงดึงดูดได้ หลังจากสู้กับอุเอคิได้ไม่นานนักก็โดนอาน่อนดูดกลืนเข้าไป ในตอนจบพระเจ้าคนก่อนได้คืนอายุขัยที่ลดลงไปให้โรเบอร์โต้
คาร์ล พี. อัจโจ หรือ คัลปัจโจ (カール・P・アッチョ(カルパッチョ))
รองหัวหน้ากลุ่มโรเบอร์โต้จูดังมี พลังเปลี่ยนพลังของคนอื่นให้เป็นพลังของตนเอง ซึ่งมีเงื่อนไขข้อจำกัดคือต้องอยู่กับบุคคลนั้นๆภายในระยะ 10 เมตรเป็นเวลา 24 ชั่วโมง ทำให้เขาสามารถประสานความสามารถของคนในกลุ่มโรเบอร์โต้จูดังได้ทุกคน (เขาเลียนแบบพลังของคนในกลุ่มทุกคนยกเว้นโรเบอร์โต้) นอกจากนี้ยังได้เลียนแบบพลังพลังเปลี่ยนความคิดของศัตรูเป็นอีเมล์มือถือนั่นทำให้เขารู้ล่วงหน้าถึงการโจมตีของคู่ต่อสู้ และพลังเปลี่ยนตำแหน่งของคู่ต่อสู้ให้เป็นตำแหน่งของตนเอง เขาเป็นคนที่เอาแมลงเพนตากอนไปติดไว้ที่อินุมารุ ทำให้ซาโนะต้องเข้ากลุ่มโรเบอร์โต้จูดัง
หยุนเปา (ユンパオ)
เด็กชายผู้ชอบกินเค้ก มี พลังเปลี่ยนไฟฟ้าให้เป็นน้ำตาล โดยจะสะพายแบตเตอรี่ไว้ที่หลัง และเมื่อใช้พลังจะทำให้ไฟฟ้าที่ปล่อยออกมาจากแบตเตอรี่กลายเป็นน้ำตาลแล้วโรยใส่คู่ต่อสู้แล้วเปลี่ยนกลับเป็นไฟฟ้า ทำให้คู่ต่อสู้หลบไม่ได้ เงื่อนไขข้อจำกัดคือต้องเบิกตากว้างเพื่อจะเปลี่ยนไฟฟ้าเป็นน้ำตาล แต่ใช้ท่าโพสเพื่อหลอกคู่ต่อสู้
คาบาร่า (カバラ)
ถึงอยู่ ม.ต้น แต่ก็เป็นนักล่าที่มีฝีมือ มี พลังเปลี่ยนผ้าคลุมให้เป็นปีก ทำให้เขาสามารถบินได้และใช้ขนนกทำลายสิ่งของต่างๆได้ ติดนิสัยชอบขว้างใส่เป้ายิง และมีอาวุธอีกอย่างคือลูกเหล็กซึ่งมีความแรงในการดีดเท่าปืนไรเฟิล เขาใช้อาวุธนี้ในการสู้กับโมริจึงไม่สูญเสียไซต์ไป
ซาโนะ เซอิจิโร่
ซาโนะเข้ากลุ่มโรเบอร์โต้จูดังเพราะรู้ว่าคัลปัจโจเอาแมลงเพนตากอนซึ่งจะดูดเลือดคนถึงแก่ความตาย ติดไว้ที่ตัวอินุมารุ ทำให้ซาโนะยอมเข้ากลุ่มโรเบอร์โต้จูดัง แต่เมื่ออินุมารุยอมตกนรกเพื่อให้ซาโนะเชื่อในความถูกต้อง ซาโนะเลยเข้ากลุ่มอุเอคิแทน
เมียวจิน ทาโร่ (明神太郎)
มีพลังสองอย่าง คือ พลังเปลี่ยนเสียงผิวปากเป็นเลเซอร์ กับ พลังเปลี่ยนจานหมุนเป็นกงจักร เขาได้รับพลังสองอย่างจากผู้สมัครเป็นพระเจ้าสองคนเพื่อให้แน่ใจว่าจะชนะจริงๆ เขาต้องปลอมตัวเป็นผู้เข้าร่วมประลองอีกคนหนึ่งเพื่อที่จะไม่ให้จำนวนคนลดลง เขาเป็นคนที่มาชวนอุเอคิให้เข้าทีม มีคำพูดติดปากคือคำว่า นะฮ่ะ
เบ๊คกี้ วอล์ฟ (ベッキー・ウォルフ)
มี พลังเปลี่ยนกระสุนบีบีให้เป็นอุกกาบาต มักจะแสลงใจกับคำว่า "เปี๊ยก" หรือ "เด็ก" เป็นผู้หญิงแต่ในหนังสือภาษาไทยแปลให้เป็นผู้ชาย
โอนิ
ชาวต่างชาติที่สวมชุดเกราะที่กันระเบิดได้ มี พลังเปลี่ยนดาบไม้ให้เป็นกรรไกรยักษ์เป็นเด็กนักเรียน ม.ต้น แต่มองยังไงๆก็เหมือนผู้ใหญ่
ริงโกะ เจลาร์ด
ริงโกะเข้าร่วมกลุ่มโรเบอร์โต้จูดังเพราะเธอชอบโรเบอร์โต้ แต่หลังจากเห็นสปิริตของอุเอคิที่ช่วยเหลือผู้คนี่กำลังเดือดร้อนโดยไม่สนว่าคนคนนั้นจะเป็นศัตรู ทำให้ริงโกะยอมเข้าช่วยเหลืออุเอคิ
มาร์โก้ มัลดีนี่ (マルコ・マルディーニ)
พ่อครัวที่ไม่ชอบให้ใครดูถูกอาหารของเขา มี พลังเปลี่ยนมะเขือเทศให้เป็นแม็กม่า
ดอน (ドン)
หนุ่มร่างยักษ์ที่มีพลังต่อยแรงสูง ไซต์ของเขามีแต่ไซที่เกี่ยวกับพลังทั้งสิ้น มี พลังเปลี่ยนแหวนให้เป็นจรวด ทำให้หมัดของเขารุนแรงขึ้นมาก นอกจากนี้ พลังของเขายังใช้ในการติดจรวดบินได้อีกด้วย (พลังนี้ แม้เจ้าตัวไม่ได้ใช้ แต่เมื่อคาร์ลปัจโจเลียนแบบพลังของเขาไปใช้ เขาก็ได้ใช้พลังนี้ในการบินได้ด้วย)
อเล็ซซิโอ ยูริอาโน่ (アレッシオ・ユリアーノ)
มี พลังเปลี่ยนดินให้เป็นเคียวยักษ์ เป็นคนที่ภักดีต่อโรเบอร์โต้มาก และจะไม่ค่อยชอบหน้าอุเอคิซักเท่าไหร่
คามุย รอซโซ่ (ไวท์ ชาโดว์) (カムイ=ロッソ)
เป็นคนที่ชอบเล่นหุ่นยนต์ มี พลังเปลี่ยนเงาให้เป็นหุ่นยนต์ โดยสามารถสร้างหุ่นได้ทีละหนึ่งตัวเท่านั้น สร้างได้หลายขนาดตั้งแต่หุ่นยนต์ขนาดเท่ารถเข็นไปจนถึงขนาดเท่าบ้านคน เขาเป็นคนทำให้แบล็กชาโดว์แพ้ไป
คุโรกิ คาเงโร่ (แบล์ค ชาโดว์)
อดีตนักบาสเกตบอลที่ถูกสั่งห้ามแข่งเพราะความถูกต้อง จึงทำให้ตนเกลียดความถูกต้อง มี พลังเปลี่ยนเงาเป็นเครย์แมน โดยสามารถสร้างหุ่นได้ทีละหลายๆตัว และยังสร้างหุ่นโคลนขึ้นมาเลียนแบบคนอื่นได้ด้วย แต่ก็แพ้ไปเพราะโดนคามุย รอซโซ่ ทำให้สลบระหว่างแข่งกับอุเอคิ

ทีมคาปูโช่
ทีมคาปูโช่นำโดยผู้สมัครเป็นพระเจ้า แซ๊ค แต่เดิมแซ๊คนั้นเป็นคนมาแทนเนโร่ ซึ่งเป็นผู้สมัครเป็นพระเจ้าของฮิเดโยชิ แต่ยอมตกนรกเพื่อช่วยฮิเดโยชิ ทีมคาปูโช่เป็นทีมที่ทำได้ทุกอย่างเพื่อเอาฮิเดโยชิมาร่วมทีมถึงกับต้องจับตัวเด็กๆแห่งบ้านดวงตะวัน

คาปูโช่
เป็นคนที่มีนิสัยดื้อรั้นมี พลังเปลี่ยนเสียงเป็นแก๊สแช่แข็ง พลังระดับสองจะทำให้น้ำแก๊สเป็นสีแดงและจะทำให้เปราะและแตกได้ (ซึ่งเจ้าตัวเป็นคนทำให้แตกเองเท่านั้น) และเมื่อพูดว่ารีเซ็ท ก๊าซแช่แข็งจะละลายไปหมด (ในกรณีที่เขาแช่แข็งตัวเองเป็นต้น) คาปูโช่ต้องการให้ฮิเดโยชิมาร่วมทีมเพราะความสามารถของทั้งสองสามารถประสานกันได้ (ให้ฮิเดโยชิเปลี่ยนเสียงของคาปูโช่ไปติดในที่ไกลๆ แล้วเปลี่ยนกลับเป็นเสียงที่แช่แข็งฝ่ายตรงข้าม)
มาริโอ
เป็นคนชอบตั้งชื่อให้กับของหลายๆอย่าง มี พลังเปลี่ยนตัวเองให้เป็นซูเปอร์ไดนามิคเอเลแกนท์บอล โดยจะโกรธถ้ามีคนเลียกว่าลูกบิลเลียดยักษ์ โดยพลังจริงๆคือการแปลงร่างเป็นลูกบิลเลียดดีๆนี่เอง ซึ่งมาริโอจะเก่งด้านภาษาอังกฤษ
อูโกะ
ชอบถือลูกบอลยางเพราะมี พลังเปลี่ยนลูกบอลยางเป็นกรดกำมะถัน ซึ่งสามารถละลายสิ่งของได้ เขามีฝีมือการขว้างบอลยางที่แม่นมาก (แต่ไม่เคยมีใครโดน) ชอบพูดคำว่า "เอ๋" ปัจจุบันสมองเสื่อมเพราะโดนฮิเดโยชิฟาดหัวด้วยรูปปั้น
นิโกะ
มี พลังเปลี่ยนเส้นผมให้เป็นสว่าน ซึ่งสามารถเจาะทะลุได้ทุกอย่างกระทั่งเพชร แต่ไร้ฝีมือถ้าไม่ได้ดำดิน เป็นคนที่รักสวยรักงาม และชอบพูดอะไรที่เกี่ยวกับความงดงาม เช่น "นิโกะ คืนชีพอย่างงดงาม"
แซ็ค
ผู้สมัครเป็นพระเจ้าของฮิเดโยชิ มีนิสัยชั่วร้ายเข้าร่วมกันพวกแก็งมาเฟีย

ทีมกราโน่
ทีมกราโน่เป็นทีมศิลปินที่มีแต่คนที่ชอบเล่นแบบจำลอง, อ่านกลอน, เล่นดนตรีและวาดเขียน เป็นทีมที่ดูจะมีฝีมือแต่แล้วก็ตกรอบสามโดยไม่ชนะใครเลย

กราโน่
กราโน่เป็นหัวหน้าทีมมี พลังเปลี่ยนแบบจำลอง (สุดเนี้ยบ) ให้เป็นของจริง โดยมีเงื่อนไขคือต้องนำแบบจำลองมาเล่นก่อนหนึ่งครั้งจึงจะเปลี่ยนให้เป็นของจริงได้ ซึ่งระดับสองจะทำให้เขาควบคุมแบบจำลองโดยตรงได้ เขาเป็นแฟนพันธุ์แท้ของแบบจำลอง รอบรู้เรื่องแทบทุกอย่าง เขาบังคับให้เปกอลมาร่วมทีม เพราะพลังของเปกอลจะทำให้เขามีแบบจำลองได้ไม่จำกัด
กีตาล
เป็นนักร้องที่มีเครื่องเล่นคาราโอเกะเก็บไว้ในซองกีตาร์ ชอบพูดคำว่า "เบบี๋" เขามักหลอกคนอื่นว่าเป็นคนไร้เทียมทานและใช้พลังเปลี่ยนเสียงเป็นคลื่นโจมตี แต่พลังจริงๆของเขาคือ พลังเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เป็นบาร์เรีย ซึ่งทำให้ร่างกายของเขาคงกระพัน (ยกเว้นส่วนหัวที่ไม่มีเสื้อผ้า) ระดับสองของเขาจะสามารถเรียกคลื่นพลังโจมตีจากในเสื้อได้ และมีเงื่อนไขที่จะเปลี่ยนเสื้อได้แค่ทีละตัว วิธีต่อสู้ของเขาคือการเปลี่ยนเสื้อผ้าตนเองเป็นบาร์เรียเพื่อป้องกันตนเอง จากนั้นก็เปลี่ยนเสื้อผ้าของคนอื่นเป็นบาร์เรียแทนแล้วตามด้วยระดับสองเพื่อโจมตี ในตอนแรกอุเอคิถูกหลอกว่าเขาใช้พลังเปลี่ยนเสียงเป็นคลื่นจู่โจมจริงๆ
มูนิน
มักชอบพูดเป็นกลอนไฮกุ พลังของเขาคือ พลังเปลี่ยนตลกเล่นคำให้เป็นเรื่องจริง โดยมีเงื่อนไขคือจะต้องทำให้อีกฝ่ายหัวเราะให้ได้ เขาต้องจับคู่ร่วมมือกับพาสเตโร่ เพื่อทำให้พลังของเขาทำงาน
พาสเตโร่
เป็นคนชอบสีและ คำพูดติดปากมักจะชอบพูดอารมณ์ต่างๆเป็นสี (เช่น "Lucky Purple", "Angry Red", "Happy Pink") เชิดชูภาพระบายสีเป็นศิลปะชั้นยอด มีพลัง เปลี่ยนภาพระบายสีให้เป็นอุโมงค์วาร์ป ซึ่งทำให้เขาใช้พู่กันไปจั๊กจี้คนอื่นได้ ซึ่งจะประสานกับพลังของมูนินพอดี
เปกอล
เปกอลเป็นคนอ่อนแอจึงถูกเพื่อนทอดทิ้ง เขาถูกทีมกราโน่หลอกว่าให้มาร่วมทีมด้วยจะมีความสุข พลังของเขาคือ พลังเปลี่ยนรูปถ่ายเป็นแบบจำลอง เพราะเขาชอบแบบจำลอง ขณะต่อสู้กับอุเอคิทำให้เขาได้รู้ความหมายที่แท้จริงของทีมและทำให้เขาถอนตัวจากการประลอง (ซึ่งนั่นน่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ทีมกราโน่แพ้หลุดลุ่ย)

ทีมมาริลีน
ทีมมาริลีนเป็นอดีตคนที่เกิดในประเทศที่มีแต่สงคราม พวกเขาต่างฝึกฝนการต่อสู้จนชำนาญแต่ก็กลับไม่ได้ใช้จริงเพราะสงครามสงบลงก่อน ทั้งหมดจึงเข้าร่วมการประลองเพราะต้องการที่จะต่อสู้สมาชิกทุกคนในทีมต่างเป็นเพื่อนที่ภักดีต่อกันและกัน

มาริลีน แครี่
พลังของมาริลีนคือ พลังเปลี่ยน 1 วินาทีเป็น 10 วินาที ทำให้เธอสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างมากมายภายในช่วงเวลาสั้นๆ หลบการโจมตีได้ทุกชนิด และสามารถใช้ในการโจมตีได้อย่างรวดเร็วมากๆ ระดับสองของเธอคือจะเพิ่มพลังโจมตีของตนเองได้เป็น 2 เท่า แต่จะมีเวลาจำกัดให้ใช้ได้เพียง 10 นาที ซึ่งเท่ากับเวลาปกติ 1 นาทีต่อวันเท่านั้น มาริลีนสูญเสียเพื่อนที่ไปในสงครามไปในวัยเด็ก และด้วยคำสัญญาที่เพื่อนๆของเธอได้ให้ไว้ว่า เมื่อเธอเก่งกาจขึ้น พวกเขาทุกคนจะกลับมาหาเธอแน่นอน เธอไม่ยอมรับความจริง และพยายามฝึกฝนตนเอง เพื่อการต่อสู้เท่านั้น เพื่อที่เธอจะต้องเก่งกาจขึ้น และเมื่อนั้น ทุกคนก็จะกลับมา เธอเชื่ออย่างนั้นโดยตลอดมา แต่แท้ที่จริงแล้ว เธอเอง ไม่ได้อยากจะต่อสู้แบบนี้ต่อไปเรื่อยๆเลย
เมโมรี่
เป็นนักวางแผนประจำทีม หน้าที่ของเมโมรี่คือการสร้างกับดัก พลังพิเศษของเธอคือ พลังเปลี่ยนแบบแปลนให้เป็นของที่สร้างเสร็จแล้ว โดยมีเงื่อนไขคือแบบแปลนต้องอยู่ในสภาพสมบูรณ์ (ซึ่งก็คือแค่เอาอะไรก็ได้มาปิดแบบแปลนไว้ก็จะใช้พลังไม่ได้) เมโมรี่ต้องทำงานร่วมกับปูแตงก์เพื่อวัสดุสร้างกับดักจะได้ไม่มีทางหมด เธอเป็นคนที่ช่วยให้โมริรู้พลังของตนเอง (โดยไม่ได้ตั้งใจ)
มาชูว์
ชอบสาวๆและเป็นผู้ที่ใช้อาวุธปืนได้อย่างคล่องแคล่ว บวกกับ พลังเปลี่ยนแขนให้กลายเป็นแขนหกข้าง ทำให้เขาสามารถใช้อาวุธหลายชิ้นพร้อมกันได้ (เช่นใช้ปืน 6 กระบอก , ยิงปืนบาซูก้าพร้อมกัน 2 กระบอก ฯลฯ) ทำให้มีความแข็งแกร่งในการต่อสู้มากยิ่งขึ้นอีก ตอนที่สู้กับซาโนะซาโนะเกือบแพ้แล้วแต่ก็สามารถใช้พลังขั้น2ได้(พลังเปลี่ยนเหล็กให้เป็นแม่เหล็ก)ซึ่งซาโนะเรียกว่า "พลังซูเปอร์แม่เหล็ก"
ปูแตงก์
ชอบพูดคำว่า "ไม่เป็นไรหรอกน่า ไม่เป็นไรหรอกน่า" มี พลังเปลี่ยนปากเป็นทางเข้าออกมิติที่สี่ ทำให้ในปากของปูแตงก์สามารถเก็บของได้มากกว่า 1000 ชิ้น ปูแตงก์มักจะใช้อาวุธที่เป็นระเบิดทุกชนิด (ซึ่งในหนังสือการ์ตูน บางครั้งก็จะดูตัวสูง บางครั้งก็ดูตัวเล็กจนเกาะหัวบารอนได้)
บารอน
บารอนเป็นลูกน้องที่ภักดีต่อมาริลีน และมักเชื่อฟังคำสั่งมาริลีนทุกอย่าง พลังของเขาคือ พลังเปลี่ยนตำแหน่งของตนเองให้เป็นตำแหน่งของมีด บารอนเป็นมือมีดที่มีความชำนาญและคล่องแคล่วมาก วิธีการต่อสู้ของเขาคือการขว้างมีดแล้วย้ายตำแหน่งไปที่มีดแล้วดักโจมตีศัตรู ระดับสองของเขาคือการตรึงตัวเองและคู่ต่อสู้ในระยะ 1 เมตรให้อยู่กับที่ ทำให้คู่ต่อสู้ไม่สามารถหนีจากการโจมตีระยะใกล้ได้

ทีมบาโร่
ทีมบาโร่เป็นทีมที่เป็นชาวสวรรค์ ล้วนๆ ทั้งหมดถูกพ่อแม่ทอดทิ้งลงมาบนโลกมนุษย์และรวมกลุ่มกันเพื่อทำให้ความฝันของอานอนเป็นจริง ทุกคนในทีมจะสวมหน้ากากเพื่อพรางพลังสวรรค์

บาโร่ เอชาลอท
ในอดีตบาโร่เคยเผลอใช้เทวภัณฑ์ทำร้ายแม่เลี้ยงของเขา ทำให้แม่เลี้ยงของเขา หวาดกลัว และมองเขาว่าเป็น ปีศาจ ทำให้เขาเกลียดเทวภัณฑ์และถูกมาการ์เร็ตชวนให้มาเข้ากลุ่มและร่วมมือกับอานอน พลังของเขาคือพลังเปลี่ยนภาพในอดีตให้กลายเป็นความจริง โดยใช้ประสานกับเทวภัณฑ์เกิดเป็น "เทวภัณฑ์เดจาวู" ทำให้สามารถเรียกเทวภัณฑ์ที่คู่ต่อสู้เคยเห็นมาก่อน ออกมาใช้ในการโจมตีได้เป็นจำนวนมากมาย แต่มีจุดอ่อนอยู่ว่าถ้าเรียกใช้เทวภัณฑ์ที่มีส่วนเชื่อมติดกับตัวเขาออกมา (เช่น พิค นามิฮานะ รัมมะ) จะทำให้ตัวเขาในอดีตถูกเรียกออกมาด้วย และหากโดนโจมตีที่อดีตของเขา เขาเองก็จะได้รับบาดเจ็บด้วย
บัน ดีกู๊ด
มี พลังเปลี่ยนสิ่งของเป็นสิ่งมีชีวิตเมื่อหลอมรวมกับเทวภัณฑ์ทำให้เป็นเทวภัณฑ์ที่มีชีวิต เทวภัณฑ์ของเขา สามารถเคลื่อนไหว หักเลี้ยวหรือหลบหลีกด้วยตัวมันเอง เขาเป็นคนที่ชอบสิ่งของน่ารักๆเหมือนริงโกะ ซึ่งดูแล้วไม่ค่อยจะเข้ากับหน้าตาโหดๆ ของเขาเลย และเขาก็เป็นคนที่นิสัยไม่ดีมากโดยเขาได้ด่าริงโกะว่า สวะ ไร้ประโยชน์ ทำให้ริงโกะฟิวส์ขาดตบพิคของบันแล้วด่าพิคว่า“หุบปากซะ เจ้าสัตว์หน้าขน” และก็ใช้อาวุธใหม่โดยมีลักษณะเป็นถุงมือ มีช่องใส่ลูกปัด ทำให้แรงตบรุนแรงขึ้นมาก และเธอก็ใช้อาวุธนี้ตบบันสลบไปแค่ครั้งเดียว
เกร็ดน่ารู้คือ ริงโกะ แก่กว่าบัน

ดิเอกอสเตอร์
เป็นคนชอบพูดถึงคำว่าลูกผู้ชายและเป็นคนไม่ประมาท พลังของเขาคือ พลังเปลี่ยนสิ่งของให้เป็นสิ่งของโปร่งใสไร้สี เมื่อหลอมรวมกับเทวภัณฑ์จะได้เทวภัณฑ์ที่มองไม่เห็น(ตอนที่สู้กับ ซาโนะ ซาโนะเกือบจะชนะแล้วแต่ดิเอกอสเตอร์ทำให้ซาโนะอยู่ในเขตห้ามใช้พลัง เกิน10วินาที จึงทำให้ซาโนะแพ้ไป)
เกร็ดน่ารู้อีกอย่างหนึ่งคือ ในการประลอง ซาโนะเรียก ดิเอกอสเตอร์ว่าลุง แต่ความจริงแล้ว ซาโนะแก่กว่า

คิลนอร์ตัน
ชอบอวดว่าตัวเองมี IQ179 พลังของเขาไม่มีการเปิดเผยเพราะแพ้ไปซะก่อนทุกที เขาสามารถต่อกรกับทีมฝ่ายตรงข้ามได้ทุกคน มี"ไซต์การคำนวณ"ที่ทำให้เขาสามารถคาดการณ์เหตุการณ์ล่วงหน้าได้ทุกอย่าง (ตอนที่สู้กับ โมริ แพ้ไปอย่างรวดเร็วและคาดไม่ถึง)

ไม่สังกัดทีม

ลีโฮ
เข้าร่วมประลองตัวคนเดียวโดยไม่ใช้พลังพิเศษ เพราะเขามีทักษะการต่อสู้ด้วยมือเปล่าที่เหนือกว่าคนอื่น ซึ่งพลังพิเศษของเขาคือ พลังเปลี่ยนเส้นผมให้ยืดหดได้ตามใจชอบ เขามีความต้องการที่จะเป็นนักสู้ผู้ยิ่งใหญ่เหมือนพ่อบุญธรรมของเขา และสามารถใช้ "การเคลื่อนที่เป็นวงกลม" ได้อย่างคล่องแคล่ว (การปัดป้องการโจมตีของคู่ต่อสู้ด้วยการเคลื่อนที่เป็นวงกลม)เขายอมรับอูเอคิให้เป็นคู่ต่อสู้ของเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น
กันจิ
ผู้สมัครเป็นพระเจ้าของลีโฮ
โอนิยามะ มงจิโร่ หรือเรียกย่อๆว่า โอนิมง
มาจากแดนชนบทที่ต้องการให้หมู่บ้านของตนที่ชาวบ้านย้ายออกไปจนหมดให้กลับมาเป็นดังเดิม มี พลังเปลี่ยนดินที่เตะให้กลายเป็นลูกเหล็ก ชอบเรียกสิ่งต่างๆด้วยคำย่อและเป็นคนตรงไปตรงมา
โบโร่ ที
มีไซมากถึง 215 อย่าง มี พลังเปลี่ยนหัวเป็นเพชร เพราะตัวเองมีจุดอ่อนที่หัว เงื่อนไขข้อจำกัดคือต้องเอามือล้วงกระเป๋ากางเกง และถึงแม้จะทำลายกระเป๋าไปก็สร้างขึ้นใหม่ได้ด้วย ไซ






[endtext]

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น