[postlink]https://aodnoommovieclub.blogspot.com/2010/07/food-inc.html[/postlink]http://www.youtube.com/watch?v=QqQVll-MP3Iendofvid
[starttext]
วันที่เข้าฉาย2010-03-11
แนวหนังสารคดี
ผู้กำกับnone
นักแสดงอีริค ชโลสเซอร์, ไมเคิล พอลแลน, เกรย์ เฮิร์ชเบิร์ก
Food, Inc. กลายเป็นสารคดีที่ ?อื้อฉาว? ที่สุดในรอบปี 2009 ที่ผ่านมา นอกเหนือจากแรงกระเพื่อมในหมู่คนดูที่วิพากษ์วิจารณ์สิ่งที่หนังนำเสนออย่างเผ็ดร้อน เสียงสนับสนุนจากนักโภชนาการอาหาร นักเศรษฐศาสตร์ และการฟ้องร้องใหญ่โตของบริษัทผลิตอาหารกว่า 5 ราย ก็กลายเป็นแรงหนุนสำคัญให้ Food, Inc. เป็นหนังสารคดีที่ ?ทุกคน? ควรเข้ามาชมร่วมกันโดยพร้อมหน้า
เนื่องจากผู้กำกับ โรเบิร์ต เคนเนอร์ กำลังจะพาคุณเข้าไปสัมผัสเบื้องลึกเบื้องหลังของธุรกิจอาหาร (ทั้งเนื้อสัตว์ พืชผักผลไม้) แบบเจาะลึก ลึกขนาดที่เห็นความฟอนเฟะ ไม่น่าอภิรมย์ และชวนให้น้ำย่อยหายไปง่ายๆ
มีการพูดกันมากว่าหลายทศวรรษแล้วว่า ธุรกิจการผลิตอาหารในสหรัฐอเมริกานั้น เต็มไปด้วยความฉ้อฉล มันถูกกำหนดและวางกรอบโดย ?ตัวเงิน? เป็นสำคัญ เพราะฉะนั้นบริษัทผลิตอาหารเกือบทุกบริษัทจึงให้ความสำคัญกับ ?ปริมาณ? มากกว่า ?คุณภาพ? แต่ที่น่ากลัวไปกว่านั้น พวกเขายังคำนึงถึง ?กำไร? มากกว่า ?ความปลอดภัย? ของผู้บริโภค
แต่ Food, Inc. จะไม่ได้บอกกล่าวแค่ว่า อาหารที่เรารับประทานกันอยู่นั้น ไม่ปลอดภัยเพียงอย่างเดียว หากแต่มันยังตั้งอยู่บนความเอารัดเอาเปรียบ ความเห็นแก่ตัว ยังรวมไปถึงการกระทำที่ผิดศีลธรรม โดยที่เราๆ ท่านๆ อาจไม่รู้ตัว
———————————–
เกร็ดภาพยนตร์
- สารคดีเรื่องนี้จะมีผู้บรรยายหลักๆ อยู่ 2 คน หนึ่งคือ เอริค ชลอสเซอร์ นักเขียนเจ้าของหนังสือขายดี Fast Food Nation (ริชาร์ด ลิงคเลเตอร์ เคยนำไปสร้างเป็นหนังเมื่อ 4 ปีก่อน) และสองคือ ไมเคิล พอลลัน นักข่าวและนักเคลื่อนไหวว่าด้วยธุรกิจอาหารที่ไม่เป็นธรรม ทั้งชลอสเซอร์, พอลลัน หรือแม้แต่ผู้กำกับโรเบิร์ต เคนเนอร์ ไม่มีใครเป็นมังสะวิรัติ เพราะฉะนั้นการวิพากษ์วัฒนธรรมการบริโภคเนื้อสัตว์อย่างเผ็ดร้อนในหนังจึงเกิดขึ้นโดยปราศจากอคติใดๆ ทั้งสิ้น
- โรเบิร์ต เคนเนอร์ ผู้กำกับของสารคดีเรื่องนี้ เกิดในปี 1971 เข้าวงการด้วยการทำหน้าที่ผู้ช่วยตากล้องในหนังหลายเรื่อง แต่ตัวเขากลับสนใจการทำหนังสารคดีมากกว่า จึงหันเหเข้าไปทำรายการและหนังสารคดีที่ออกฉายทางโทรทัศน์ เขาเคยได้รับรางวัลเอมมี่จากสารคดีชุด The American Experience ในปี 2005 สำหรับ Food, Inc. นั้นเป็นสารคดีที่ออกฉายทางโรงภาพยนตร์เรื่องแรกของเคนเนอร์ และพูดได้ว่าเป็นการเริ่มต้นที่ประสบความสำเร็จอย่างไม่คาดคิด
- Food, Inc. เป็นหนังสารคดีขวัญใจนักวิจารณ์ มันได้คะแนนบวกจากเว็บไซต์ Rotten Tomatoes ถึง 97% และจากเว็บไซต์ที่รวบรวมผลของนักวิจารณ์อย่าง Metacritic ถึง 80 เต็ม 100 โดยนักวิจารณ์ส่วนหนึ่งให้ความเห็นว่า Food, Inc. เป็นหนังที่เปิดข้อมูลที่เชื่อมั่นว่าไม่มีใครเคยรู้มาก่อนเกี่ยวกับธุรกิจอาหาร มันเป็นหนังสารคดีที่ทั้งตื่นเต้น น่ากลัว แบบเดียวกับที่คุณรู้สึกขณะนั่งดูหนังสยองขวัญ, นักวิจารณ์อีกส่วนหนึ่งให้ความเห็นว่า Food, Inc. เป็นหนังที่ทุกคน ?ควร? เข้าไปดู เพราะนี่คือข้อเท็จจริงที่ประชาคมโลกควรได้มีโอกาสรับรู้ ว่าทุกวันนี้เรากำลังบริโภคอะไรกันอยู่
- มีบริษัทผลิตอาหาร 5-6 บริษัทที่ยื่นฟ้องโรเบิร์ต เคนเนอร์ว่า นำเอาข้อมูลที่บิดเบือนไปเผยแพร่ และมีการหมิ่นประมาทบริษัทเหล่านั้น แต่ตัวเคนเนอร์แก้ต่างว่า ตนไม่ได้บิดเบือนข้อมูลใดๆ และหนังสารคดีเรื่อง Food, Inc. ไม่ได้ทำไปเพื่อต้องการดิสเครดิตใคร เขาเพียงแต่ต้องการความโปร่งใสเท่านั้นเอง
- Food, Inc. ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ปีล่าสุดในสาขาภาพยนตร์สารคดียอดเยี่ยม (แต่ก็ไม่ได้รางวัลอยู่ดี) ก่อนหน้านี้หนังได้คว้ารางวัลสารคดียอดเยี่ยมมาจาก สมาคมนักวิจารณ์ทางวิทยุและโทรทัศน์ และยังได้เข้าชิงรางวัลสารคดียอดเยี่ยมกว่า 20 สถาบัน
——————————————-
ภาพยนตร์สารคดีที่เล่าเรื่องผ่าน “ไมเคิล พอลแลน” และ “อีริค ชโลสเซอร์” บุคคลสองคนที่ติดตามวิพากษ์วิจารณ์อุตสาหกรรมการผลิตอาหารของสหรัฐฯมาอย่าง ต่อเนื่องยาวนาน โดยพวกเขาได้ทำการตรวจสอบอุตสาหกรรมการผลิตอาหารภาคเกษตรกรรม ก่อนจะสรุปว่าเนื้อสัตว์และพืชผักที่ถูกผลิตขึ้นจากอุตสาหกรรมดังกล่าว มีที่มาจากการเอารัดเอาเปรียบและผูกขาดทางเศรษฐกิจ ทั้งยังส่งผลเสียต่อสุขภาพของผู้คนและสิ่งแวดล้อม
หนังสารคดีชื่อดังเรื่องนี้มีโครงเรื่องที่แบ่งออกเป็น 4 ส่วน คือ
ส่วนแรก ทำการตรวจสอบอุตสาหกรรมการผลิตเนื้อสัตว์ (ไก่,เนื้อวัว และหมู) ซึ่งหนังเห็นว่าเป็นกระบวนการที่ไร้ซึ่งมนุษยธรรม รวมทั้งปราศจากความยั่งยืนทางด้านเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม
ส่วนที่สอง ทำการสำรวจอุตสาหกรรมการผลิตเมล็ดพันธุ์และพืชผัก ซึ่งหนังเห็นว่ามีความไม่ยั่งยืนทางด้านเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมเช่นกัน
ส่วนที่สามและส่วนสุดท้าย หนังพูดถึงอำนาจทางเศรษฐกิจและกฎหมายของเหล่าบรรษัทผลิตอาหารยักษ์ใหญ่ ซึ่งขายอาหารราคาถูกแต่เจือปนไปด้วยสารพิษ, ใช้สารเคมีอย่างมากล้น โดยเฉพาะยาฆ่าแมลงและปุ๋ย รวมทั้งทำงานประชาสัมพันธ์ให้สาธารณชนอเมริกันมีนิสัยในการบริโภคอาหารที่ ส่งผลเสียต่อสุขภาพ
[endtext]
[starttext]
วันที่เข้าฉาย2010-03-11
แนวหนังสารคดี
ผู้กำกับnone
นักแสดงอีริค ชโลสเซอร์, ไมเคิล พอลแลน, เกรย์ เฮิร์ชเบิร์ก
Food, Inc. กลายเป็นสารคดีที่ ?อื้อฉาว? ที่สุดในรอบปี 2009 ที่ผ่านมา นอกเหนือจากแรงกระเพื่อมในหมู่คนดูที่วิพากษ์วิจารณ์สิ่งที่หนังนำเสนออย่างเผ็ดร้อน เสียงสนับสนุนจากนักโภชนาการอาหาร นักเศรษฐศาสตร์ และการฟ้องร้องใหญ่โตของบริษัทผลิตอาหารกว่า 5 ราย ก็กลายเป็นแรงหนุนสำคัญให้ Food, Inc. เป็นหนังสารคดีที่ ?ทุกคน? ควรเข้ามาชมร่วมกันโดยพร้อมหน้า
เนื่องจากผู้กำกับ โรเบิร์ต เคนเนอร์ กำลังจะพาคุณเข้าไปสัมผัสเบื้องลึกเบื้องหลังของธุรกิจอาหาร (ทั้งเนื้อสัตว์ พืชผักผลไม้) แบบเจาะลึก ลึกขนาดที่เห็นความฟอนเฟะ ไม่น่าอภิรมย์ และชวนให้น้ำย่อยหายไปง่ายๆ
มีการพูดกันมากว่าหลายทศวรรษแล้วว่า ธุรกิจการผลิตอาหารในสหรัฐอเมริกานั้น เต็มไปด้วยความฉ้อฉล มันถูกกำหนดและวางกรอบโดย ?ตัวเงิน? เป็นสำคัญ เพราะฉะนั้นบริษัทผลิตอาหารเกือบทุกบริษัทจึงให้ความสำคัญกับ ?ปริมาณ? มากกว่า ?คุณภาพ? แต่ที่น่ากลัวไปกว่านั้น พวกเขายังคำนึงถึง ?กำไร? มากกว่า ?ความปลอดภัย? ของผู้บริโภค
แต่ Food, Inc. จะไม่ได้บอกกล่าวแค่ว่า อาหารที่เรารับประทานกันอยู่นั้น ไม่ปลอดภัยเพียงอย่างเดียว หากแต่มันยังตั้งอยู่บนความเอารัดเอาเปรียบ ความเห็นแก่ตัว ยังรวมไปถึงการกระทำที่ผิดศีลธรรม โดยที่เราๆ ท่านๆ อาจไม่รู้ตัว
———————————–
เกร็ดภาพยนตร์
- สารคดีเรื่องนี้จะมีผู้บรรยายหลักๆ อยู่ 2 คน หนึ่งคือ เอริค ชลอสเซอร์ นักเขียนเจ้าของหนังสือขายดี Fast Food Nation (ริชาร์ด ลิงคเลเตอร์ เคยนำไปสร้างเป็นหนังเมื่อ 4 ปีก่อน) และสองคือ ไมเคิล พอลลัน นักข่าวและนักเคลื่อนไหวว่าด้วยธุรกิจอาหารที่ไม่เป็นธรรม ทั้งชลอสเซอร์, พอลลัน หรือแม้แต่ผู้กำกับโรเบิร์ต เคนเนอร์ ไม่มีใครเป็นมังสะวิรัติ เพราะฉะนั้นการวิพากษ์วัฒนธรรมการบริโภคเนื้อสัตว์อย่างเผ็ดร้อนในหนังจึงเกิดขึ้นโดยปราศจากอคติใดๆ ทั้งสิ้น
- โรเบิร์ต เคนเนอร์ ผู้กำกับของสารคดีเรื่องนี้ เกิดในปี 1971 เข้าวงการด้วยการทำหน้าที่ผู้ช่วยตากล้องในหนังหลายเรื่อง แต่ตัวเขากลับสนใจการทำหนังสารคดีมากกว่า จึงหันเหเข้าไปทำรายการและหนังสารคดีที่ออกฉายทางโทรทัศน์ เขาเคยได้รับรางวัลเอมมี่จากสารคดีชุด The American Experience ในปี 2005 สำหรับ Food, Inc. นั้นเป็นสารคดีที่ออกฉายทางโรงภาพยนตร์เรื่องแรกของเคนเนอร์ และพูดได้ว่าเป็นการเริ่มต้นที่ประสบความสำเร็จอย่างไม่คาดคิด
- Food, Inc. เป็นหนังสารคดีขวัญใจนักวิจารณ์ มันได้คะแนนบวกจากเว็บไซต์ Rotten Tomatoes ถึง 97% และจากเว็บไซต์ที่รวบรวมผลของนักวิจารณ์อย่าง Metacritic ถึง 80 เต็ม 100 โดยนักวิจารณ์ส่วนหนึ่งให้ความเห็นว่า Food, Inc. เป็นหนังที่เปิดข้อมูลที่เชื่อมั่นว่าไม่มีใครเคยรู้มาก่อนเกี่ยวกับธุรกิจอาหาร มันเป็นหนังสารคดีที่ทั้งตื่นเต้น น่ากลัว แบบเดียวกับที่คุณรู้สึกขณะนั่งดูหนังสยองขวัญ, นักวิจารณ์อีกส่วนหนึ่งให้ความเห็นว่า Food, Inc. เป็นหนังที่ทุกคน ?ควร? เข้าไปดู เพราะนี่คือข้อเท็จจริงที่ประชาคมโลกควรได้มีโอกาสรับรู้ ว่าทุกวันนี้เรากำลังบริโภคอะไรกันอยู่
- มีบริษัทผลิตอาหาร 5-6 บริษัทที่ยื่นฟ้องโรเบิร์ต เคนเนอร์ว่า นำเอาข้อมูลที่บิดเบือนไปเผยแพร่ และมีการหมิ่นประมาทบริษัทเหล่านั้น แต่ตัวเคนเนอร์แก้ต่างว่า ตนไม่ได้บิดเบือนข้อมูลใดๆ และหนังสารคดีเรื่อง Food, Inc. ไม่ได้ทำไปเพื่อต้องการดิสเครดิตใคร เขาเพียงแต่ต้องการความโปร่งใสเท่านั้นเอง
- Food, Inc. ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ปีล่าสุดในสาขาภาพยนตร์สารคดียอดเยี่ยม (แต่ก็ไม่ได้รางวัลอยู่ดี) ก่อนหน้านี้หนังได้คว้ารางวัลสารคดียอดเยี่ยมมาจาก สมาคมนักวิจารณ์ทางวิทยุและโทรทัศน์ และยังได้เข้าชิงรางวัลสารคดียอดเยี่ยมกว่า 20 สถาบัน
——————————————-
ภาพยนตร์สารคดีที่เล่าเรื่องผ่าน “ไมเคิล พอลแลน” และ “อีริค ชโลสเซอร์” บุคคลสองคนที่ติดตามวิพากษ์วิจารณ์อุตสาหกรรมการผลิตอาหารของสหรัฐฯมาอย่าง ต่อเนื่องยาวนาน โดยพวกเขาได้ทำการตรวจสอบอุตสาหกรรมการผลิตอาหารภาคเกษตรกรรม ก่อนจะสรุปว่าเนื้อสัตว์และพืชผักที่ถูกผลิตขึ้นจากอุตสาหกรรมดังกล่าว มีที่มาจากการเอารัดเอาเปรียบและผูกขาดทางเศรษฐกิจ ทั้งยังส่งผลเสียต่อสุขภาพของผู้คนและสิ่งแวดล้อม
หนังสารคดีชื่อดังเรื่องนี้มีโครงเรื่องที่แบ่งออกเป็น 4 ส่วน คือ
ส่วนแรก ทำการตรวจสอบอุตสาหกรรมการผลิตเนื้อสัตว์ (ไก่,เนื้อวัว และหมู) ซึ่งหนังเห็นว่าเป็นกระบวนการที่ไร้ซึ่งมนุษยธรรม รวมทั้งปราศจากความยั่งยืนทางด้านเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม
ส่วนที่สอง ทำการสำรวจอุตสาหกรรมการผลิตเมล็ดพันธุ์และพืชผัก ซึ่งหนังเห็นว่ามีความไม่ยั่งยืนทางด้านเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมเช่นกัน
ส่วนที่สามและส่วนสุดท้าย หนังพูดถึงอำนาจทางเศรษฐกิจและกฎหมายของเหล่าบรรษัทผลิตอาหารยักษ์ใหญ่ ซึ่งขายอาหารราคาถูกแต่เจือปนไปด้วยสารพิษ, ใช้สารเคมีอย่างมากล้น โดยเฉพาะยาฆ่าแมลงและปุ๋ย รวมทั้งทำงานประชาสัมพันธ์ให้สาธารณชนอเมริกันมีนิสัยในการบริโภคอาหารที่ ส่งผลเสียต่อสุขภาพ
สารคดีที่ ?อื้อฉาว? ที่สุดในรอบปี 2009 ที่ผ่านมา
[endtext]
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น